เดินวันละ 1 ชั่วโมง ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

วันที่เผยแพร่ : 23 ม.ค. 2567 15:43 น.

วันที่เแก้ไข : 25 เม.ย. 2567 20:22 น.


การเดินวันละ 1 ชั่วโมง สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ดังนี้

• ยิ่งเดินเยอะ เดินเร็ว และน้ำหนักตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นคนที่มีน้ำหนักมากกว่า เดินในระยะทางที่มากกว่า และเดินด้วยความเร็วที่มากกว่า ก็จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าคนที่น้ำหนักน้อยกว่าและเดินช้ากว่า

• จากงานวิจัยพบว่า ผู้หญิงน้ำหนักมาตรฐาน 11 คน สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 7.7 กิโลกรัม หรือ 10% ของน้ำหนักตัว จากการเดินเร็ว 1 ชั่วโมงต่อวัน ในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจริงๆ แล้ว น้ำหนักของแต่ละคนเริ่มลดลงตั้งแตการเดินในระยะเวลาวันละ 30 นาทีแล้ว

• ในผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติ หรืออยู่ในภาวะโรคอ้วน หากเดินเร็ววันละ 50-70 นาที เป็นระยะเวลา 3 วันต่อสัปดาห์ สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 2.7 กิโลกรัมใน 12 สัปดาห์

• หากเดินเร็วทุกวันไปด้วย ควบคุมอาหารไปด้วย จะยิ่งลดน้ำหนักอย่างได้ผลมากขึ้น

• โดยเฉลี่ยแล้ว การเดินเร็ว 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญพลังงานได้ราว 500 kcal ต่อครั้ง

ประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อเดินละวันละ 1 ชั่วโมง

นอกจากจะช่วยเรื่องลดน้ำหนักแล้ว การเดินวันละ 1 ชั่วโมงยังส่งผลดีต่อสุขภาพในด้านอื่นด้วย เช่น

• ลดความอยากกินหวานๆ สำหรับคนที่ติดหวาน โดยเฉพาะคนที่มักอยากกินหวานที่เกิดจากความเครียด

• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยพบว่า คนที่เดินเป็นประจำทุกวันใช้วันลาป่วยลดลงมากถึง 43%

• ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้ 14%

• ลดความเสี่ยงข้อเสื่อมตามวัย

• ลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) อย่างได้ผล

• ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น

• ลดความดันโลหิต

• ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

• ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภท 2

• ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

เดินอย่างไรถึงจะลดน้ำหนักอย่างได้ผล

1. ก่อนเดินอาจยืดเส้นยืดสาย ทำท่ากายบริการง่ายๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อน จากนั้นจึงเริ่ม

2. หากเลือกได้ เลือกทางเดินที่มีพื้นเรียบ ไม่สะดุดง่าย เป็นทางทอดยาวไปเรื่อยๆ เหมือนลู่วิ่ง สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และสวมรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน หรือจะสวมรองเท้าวิ่งก็ได้

3. ขณะเดิน ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเดินจับเวลาหรือเดินจับความเร็ว ขอให้ลองเดินด้วยความเร็วที่ทำให้เริ่มรู้สึกเหนื่อย เริ่มจากเดินช้าๆ เพื่อเป็นการวอร์มร่างกายก่อนเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการเดินจนทำให้รู้สึกว่าเริ่มหอบ เริ่มเหนื่อย เริ่มเหงื่อซึมนิดๆ และเดินด้วยความเร็วระดับที่ทำให้เริ่มเหนื่อยด้วยความเร็วคงที่ไปอีก 10-15 นาที หากไม่ไหวสามารถลดความเร็วในการเดินเป็นระยะๆ ได้

4. ระหว่างเดินหากกระหายน้ำ สามารถผ่อนความเร็วในการเดินแล้วพักจิบน้ำได้เล็กน้อย แต่อย่าดื่มน้ำมากเกินไป ระวังจุกท้องเมื่อเริ่มเดินต่อ

5. สามารถสลับความเร็วเป็นเดินเร็ว-ช้าหากเหนื่อยเกินไปได้ จนกระทั่ง 5 นาทีสุดท้ายลดความเร็วในการเดินลงช้าๆ จนกลายเป็นเดินปกติ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Student Care

21 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 7 ถ.ประเสริฐมนูกิจ 29 ต.จรเข้บัว อ.ลาดพร้าว จ.กรุงเทพมหานคร 10230

โทร.0808086001

แฟกซ์.029435477

เว็บไซต์ http://www.student.co.th



ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Student Care
ยึดมั่นธรรมาภิบาล ทำงานเพื่อการศึกษาไทย....


21 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 7 ถ.ประเสริฐมนูกิจ 29 ต.จรเข้บัว อ.ลาดพร้าว จ.กรุงเทพมหานคร 10230
โทร 0808086001
แฟ็กซ์ 029435477
เว็บไซต์ http://www.student.co.th

3
Hide
Show
ติดต่อเราที่นี่